ใหม่ ! Ford Everest ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เปิดตัวรุ่นย่อย ปี 2025 ในราคา 1,619,000 บาท

ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดตัวรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ เสริมทัพความแข็งแกร่ง ฟอร์ด เอเวอเรสต์ด้วย รุ่นย่อยใหม่ล่าสุด อย่าง Ford Everest Sport Special Edition ที่ไม่เพียงแค่ดีไซต์ให้มีความแข็งแกร่งและดุดันมากยิ่งขึ้น แต่ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สปอร์ต สเปเชียล เอดิชัน ยังมาพร้อมสมรรถนะการขับขี่และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหารถอเนกประสงค์ไว้ใช้งานโดยเฉพาะ 

ราคาอย่างเป็นทางการ Ford Everest Sport Special Edition

  • Ford Everest Sport Special Edition ราคา 1,619,000 บาท

*** มาพร้อมการรับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty นาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร รวมทั้งชุดแต่ง Adventure Pack รับประกันนาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร

ขุมพลัง Ford Everest Sport Special Edition

เครื่องดีเซล 2.0 ลิตร Turbo ให้พละกำลังสูงสุด 170 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 405 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750 – ,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 2 ล้อ 

โหมดการขับขี่ 4 โหมด Normal, Eco, Tow/Haul, Slippery

ขนาดตัวถัง 

  • ยาว  4,914 มม.
  • กว้าง  1,923 มม.
  • สูง  1,842 มม.
  • ระยะฐานล้อ  2,900 มม.

Ford Everest Sport Special Edition มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี

  • สี Aluminium Metallic 
  • สี Snowflake White Pearl (เพิ่มเงิน 12,000 บาท)

จุดเด่น Ford Everest Sport Special Edition

  • ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยโทนสีดำ สไตล์สปอร์ต 
  • เบาะนั่งหุ้มหนังและหนังสังเคราะห์
  • จอสีแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 12 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
  • หลังคาสีดำเพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวรถ
  • ด้านท้ายติดตั้งสปอยเลอร์หลังเพิ่มความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น
  • ฝากระโปรงหน้าตกแต่งด้วยอักษร EVEREST ให้มีความพรีเมียมเฉพาะตัว
  • ล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว สีทูโทน ตกแต่งด้วยสีแดง-ดำให้โดดเด่น พร้อมสะกดทุกสายตา

ข้อมูล สเปกรถ Ford Everest Sport Special Edition

อุปกรณ์ภายนอก

  • ล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว สีทูโทน ตกแต่งด้วยสีแดง ดำ ยางขนาด 255/55 R20
  • หลังคาสีดำ
  • ฝากระโปรงหน้าตกแต่งด้วยอักษร EVEREST 
  • สปอยเลอร์หลังสีดำ
  • ชุดแต่งภายนอกสีดำสปอร์ต
  • ไฟหน้าแบบ LED รีเฟลกเตอร์ พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
  • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ
  • ไฟช่วงกลางวันแบบ LED รูป C-Clamp
  • ไฟตัดหมอกหน้า LED
  • ไฟท้ายแบบ LED Signature
  • ประตูท้ายเปิด-ปิด ไฟฟ้า

อุปกรณ์ภายใน

  • ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยโทนสีดำ สไตล์สปอร์ต
  •  หน้าจอแสดงผลจอสีแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 12 นิ้ว
  • รองรับ WirelessApple CarPlay / Android Auto และระบบเชื่อมต่อบลูทูธ และ ระบบ SYNC
  • ระบบ FordPass Connect
  • ช่องต่อ USB 4 ตำแหน่ง
  • ลำโพง 8 ตำแหน่ง
  • เบาะนั่งหุ้มหนังและหนังสังเคราะห์
  • เบาะนั่งคนขับและผู้โดยสาร ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • แท่นชาร์จไร้สาย
  • หน้าจอแสดงผลบนหน้าปัดแบบสีขนาด 8 นิ้ว
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา
  • ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
  • ช่องต่อไฟ 12V 3 ช่อง
  • กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ พร้อมช่องต่อ USB
  • ระบบเปิด-ปิดกระจกสัมผัสเดียวด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า
  • กุญแจรีโมทอัจฉริยะพร้อมปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ

ระบบความปลอดภัย

  • ถุงลมนิรภัย 7 จุด คู่หน้า / ด้านข้าง / ม่านถุงลมนิรภัย / และถุงลมบริเวณหัวเข่า
  • กล้องมองรอบคัน 360 องศา
  • ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน
  • สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและด้านหลัง
  • ระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • เบรกมือไฟฟ้า
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP และ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี
  • ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน HLA และระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ROM
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
  • ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมระบบ Stop&Go และระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง
  • ระบบช่วยเบรคอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้า
  • ระบบช่วยควบคุมรถหลังจากชน
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง
  • ระบบตรวจจับรถในจุดบอด และระบบตรวจจับขณะออกจากช่องจอด
  • ระบบป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง
  • ระบบช่วยการหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ

ที่มา https://www.ford.co.th/

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *