
GWM เผยสเป็ค Tank 300 Diesel รถเอสยูวีพรีเมียมสายออฟโรด ขับลุยได้ทุกเส้นทาง พร้อมเผยภาพรถคันจริง ก่อนเปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการจากการนำเข้าจากประเทศจีน ในวันที่ 25 มีนาคม ภายในงาน Motor Show 2025 นี้

GWM Tank 300 Diesel จะมีด้วยกัน 3 รุ่นย่อย คือ
- Tank 300 Diesel 2.4T Pro 2WD
- Tank 300 Diesel 2.4T Ultra 2WD
- Tank 300 Diesel 2.4T Ultra 4WD
พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษรับประกันยาวนานถึง 1,000,000 กิโลเมตรหรือระยะเวลา 8 ปี

ขนาด มิติตัวถัง GWM Tank 300 Diesel
- ยาว 4,760 มม.
- กว้าง 1,930 มม.
- สูง 1,903 มม.
- ระยะฐานล้อ 2,750 มม.

ขุมพลัง GWM Tank 300 Diesel
เครื่องดีเซล 2.4 ลิตร เทอร์โบ แปรผัน VGT ให้พละกำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 480 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500 – 2,500 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0 – 100 กม.ต่อชม. ภายในเวลา 11 วินาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ ขับเคลื่อน 2 ล้อ RWD และ 4 ล้อ 4WD ให้อัตราสิ้นเปลือง 14 กม.ต่อลิตร


GWM Tank 300 Diesel มาพร้อมการดีไซต์รูปลักษณ์ภายนอกบึกบึนและแข็งแกร่ง สไตล์สายออฟโรดที่มาพร้อมตัวรถทรงเหลี่ยมยกสูง ด้านหน้าติดตั้งด้วยกระจังหน้าแบบ Rectangle ไฟหน้าทรงกลมพร้อมไฟตัด Daytime Running Light แบบ LED บริเวณด้านข้างตัวรถติดตั้งด้วยบันไดข้าง ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว ยางขนาด 265/65 R17 และยางอะไหล่ที่ติดตั้งบริเวณฝาท้ายให้ความรู้สึกถึงรถเอสยูวีสายออฟโรดโดยเฉพาะ

ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบให้มีความหรูหราและทันสมัย แม้ภายนอกจะดูแข็งแกร่ง ด้วยการออกแบบห้องโดยสารเป็นโทนสีดำและเบาะหนัง Nappa และหนังสังเคราะห์ ที่ช่วยเพิ่มความเรียบหรูให้กับตัวรถ มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ช่วยมอบความเพลิดเพลินและความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่ ทั้ง หน้าจอ Full Digital และหน้าจอกลางแบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 12.3 นิ้ว ลำโพง 6 และ 8 ตำแหน่งรอบคัน (ในแต่ละรุ่นย่อย) ช่อง USB ด้านหน้าและด้านหลัง ช่อง USB สำหรับต่อกล้องบันมึกภาพ ช่องจ่ายไฟสำรอง 12V และช่องจ่ายไฟสำรอง 220V และระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง

GWM Tank 300 Diesel ยังมาพร้อมระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ Double Cross Arm และด้านหลังแบบ Multilink รู้สึกได้ถึงความแน่นหนึบ แต่ยังคงให้ความยืดหยุ่นเมื่อต้องขับในเส้นทางขรุขระ มาพร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยลดการสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์และลดเสียงรบกวน ที่ช่วยให้เสียงในห้องโดยสารเงียบกว่าเครื่องดีเซลทั่วๆไปและระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ครบครัน ช่วยตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่และยังช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม

















ขอบคุณภาพ : https://www.headlightmag.com/